ทัพเรือออสเตรเลียเตรียมร่วมทำภารกิจฝึกซ้อม กระชับความสัมพันธ์ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

ทัพเรือออสเตรเลียเตรียมร่วมทำภารกิจฝึกซ้อม กระชับความสัมพันธ์ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

เรือบรรทุกเครื่องบินแคนเบอร์ราของกองทัพเรือออสเตรเลีย จอดลอยลำหน้าอ่าวป่าตอง เตรียมร่วมทำภารกิจฝึกซ้อมค้นหา และกู้ภัย ภายใต้โครงการกระชับความสัมพันธ์ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา( 27 เม.ย.62) เรือรบหลวงแคนเบอร์รา (HMAS Canberra) ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ กองทัพเรือออสเตรเลีย ได้เดินทางถึงอ่าวป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ภายใต้โครงการกระชับความสัมพันธ์ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก (Indo-Pacific Endeavour 2019) โดยมีเรือรบหลวงนิวคาสเซิล (HMAS Newcastle) ร่วมเดินทางมาด้วย

พลอากาศจัตวา ริค โอเวนท์ ผู้บัญชาการหน่วยร่วมเฉพาะกิจ 

กล่าวว่า การมาเยือนในครั้งนี้เป็นการสานต่อความร่วมมืออันดีทางการทหารและระหว่างรัฐบาลในภูมิภาค รวมถึงระหว่างออสเตรเลียและไทย“ผมขอแสดงความขอบคุณชาวภูเก็ต และชาวไทย ที่ให้การต้อนรับพวกเราพวกเรามาที่นี่เพื่อหามิตรใหม่ และมาเยี่ยมเยียนเพื่อนเก่า” และเจ้าหน้าที่ทหารไทยจะเข้าร่วมในการฝึกซ้อมแผนบนโต๊ะ เพื่อจำลองการค้นหาและกู้ภัยร่วมกับทหารออสเตรเลียในวันจันทร์ที่ 29 เม.ย.62 นี้

พลอากาศจัตวา ริค โอเวนท์ ยังกล่าวอีกว่า การมาเยือนในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงภารกิจทางการทหารเท่านั้น แต่กำลังพลออสเตรเลียจะขึ้นฝั่งเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมทำความสะอาดชายหาดบนเกาะสิเหร่ จัดการแข่งขันการช่วยชีวิตทางทะเล และจะมีการช่วยก่อสร้างศูนย์การเรียนรู้คอร์เนอร์สโตนให้เสร็จสิ้น ก่อนที่กองกำลังเฉพาะกิจภายใต้โครงการ Indo – Pacific Endeavour จะเดินทางไปร่วมเดินทางต่อ เพื่อเยือนประเทศอินเดีย ศรีลังกา อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม ต่อไป

สำหรับ เรือรบหลวงแคนเบอร์ราเป็นเรือขนาดใหญ่ที่สุดที่ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับกองทัพเรือออสเตรเลีย มีขนาดความยาว 230 เมตร และมีน้ำหนัก 27,000 ตัน เรือลำนี้สามารถปฏิบัติภารกิจด้านมนุษยธรรมและบรรเทาสาธารณภัยได้อย่างกว้างขวาง โดยภายในมีศูนย์บริการทางการแพทย์ พร้อมห้องผ่าตัดจำนวน 2 ห้อง และมีเภสัชกรจ่ายยาเรือสามารถบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ได้ 18 ลำ พร้อมทั้งยานพาหนะ และอุปกรณ์อื่นๆ

ดินถล่มเหมืองหยกรัฐกะฉิ่น เมียนมา คนงาน 54 ชีวิตถูกฝังทั้งเป็น ดินถล่มเมียนมา – เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมาเกิดเหตุดินโคลนถล่มฝังคนงานเหมืองหยกกว่า 54 ชีวิตทั้งเป็นพร้อมรถยนต์อีก 40คัน บริเวณพื้นที่พักคนงานเหมือง ในรัฐกะฉิ่นทางตอนเหนือของประเทศเมียนมา

จากสภาพการณ์คาดว่าคนงานเหมือน 54 ชีวิตเสียชีวิตทั้งหมด ตอนนี้พบร่างเพียง 3 ศพ การค้นหาช่วยเหลือยังคงดำเนินอยู่ต่อไป #ดินโคลนถล่ม #ดินถล่มเหมืองเมียนมา #คนงานเหมืองหยกเมียนมาถูกดินถล่ม

ฟิลิปปินส์แผ่นดินไหว – เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 22 เม.ย. เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ที่บริเวณหมู่เกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ ที่ระดับความลึก 10 กิโลเมตร รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงมะนิลา เมืองหลวง นอกจากนี้ยังมีการส่วต่อคลิปขณะเกิดแผ่นดินไหวเขย่าตึก แองเชอร์ สกายซูตส์ กรุงมะนิลา ทำให้น้ำในสระว่ายน้ำยาว ชั้นดาดฟ้ากระฉอกออกมาเหมือนน้ำตก

เขย่าเกาะฟิลิปปินส์ แผ่นดินไหวขนาด 6.3 ตึกไหวสะเทือน มีผู้เสียชีวิต 5 ราย

ฟิลิปปินส์แผ่นดินไหว – เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 22 เม.ย. เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ณ ประเทศฟิลิปปินส์ เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 ราย เนื่องจากตึกถล่มเพราะแรงแผ่นดินไหว ที่เมืองโปรัค และลูเบา อย่างไรก็ดีไม่มีการแจ้งเตือนสึนามิ

เหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวมีจุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากกรุงมะนิลา เมืองหลวงประมาณ 60 กิโลเมตร ซึ่งสามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ผู้คนต่างรีบอพยพออกจากตัวอาคารมียืนอยู่ ณ ที่โล่งกันแน่นขนัด ขณะที่ในโลกออน์ไลน์ได้แชร์คลิปตึกขณะโดนแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวจนน้ำบนสระชั้นสูงกระฉอกลงมาเหมือนน้ำตก

ฟิลิปปินส์แผ่นดินไหว – 23 เม.ย. เมื่อเวลาประมาณ 13.37 น. เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.5 ที่เกาะซามาร์ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวลึก 10 กิโลเมตร เบื้องต้น ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต นับเป็นเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 2 ครั้งติดกันในรอบ 2 วัน หลังจากเมื่อวานที่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6. 3 ที่เกาะลูซอน มีผู้เสียชีวิต 11 ราย

จับผู้ต้องสงสัยระเบิดศรีลังกา – จากกรณีเมื่อวันที่ 21 เม.ย. เกิดระเบิดขึ้น 8 แห่งในประเทศศรีลังกา ส่วนใหญ่มุ่งเป้าโจมตีโบสถ์คริสต์ขณะคริสตศาสนิกชนกำลังเฉลิมฉลองเนื่องในวันอีสเตอร์ ทั้งยังระเบิดโรงแรมอีก 3 แห่ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 290 ราย ในนี้เป็นชาวต่างชาติ 35 ราย และบาดเจ็บอีก 500 ราย ทางการต้องประกาศเคอร์ฟิวและปิดกั้นการเข้าถึงโซเชียลมีเดียเพื่อป้องกันข่าวปลอมตามที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

คืบหน้าล่าสุด รัฐบาลศรีลังกาได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 24 ราย แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นกลุ่มใด ด้านสำนักข่าวต่างประเทศางว่าผู้บัญชาการตำรวจศรีลังกาได้ออกหนังสือแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ระดับสูงตั้งแต่ 10 วันก่อน ตามรายงานข่าวกรองที่ได้รับจากต่างชาติว่า กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงอาจวางแผนใช้เหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีโบสถ์สำคัญในเทศกาลอีสเตอร์ นายกรัฐมนตรีศรีลังกายอมรับว่า มีข้อมูลข่าวกรองเตือนก่อนเกิดเหตุจริง และขณะนี้กำลังสั่งให้ทำการสอบสวนว่าเหตุใดจึงไม่มีการดำเนินมาตรการเตือนภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันเหตุร้ายแรงดังกล่าว (รายละเอียดเพิ่มเติม : มติชน)

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า